[ก๊อปปี้แปะได้เลย] สร้างเครื่องมือย่อขนาดภาพด้วย Python! คู่มือ Pillow สำหรับนักสร้างเว็บ
สวัสดีครับ! นี่เป็นซีรีส์ที่ผม ซึ่งเมื่อไม่กี่เดือนก่อนยังไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งเลย จะมาอธิบายจากมุมมองของผู้เริ่มต้น โดยอิงจากประสบการณ์การสร้างเว็บไซต์ด้วยความช่วยเหลือของ AI ครับ
เวลาที่เราทำเว็บไซต์ งานหนึ่งที่ต้องเจอแทบจะตลอดก็คือ "การย่อขนาดรูปภาพ" ไม่ว่าจะเป็นภาพขนาดย่อสำหรับบทความบล็อก, รูปสินค้า, หรืองานในพอร์ตโฟลิโอ... การต้องมาย่อขนาดรูปภาพจำนวนมากทีละรูปๆ ด้วยมือนั้น บอกตรงๆ ว่ามันน่าท้อใจใช่ไหมครับ ผมก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
แต่ไม่ต้องกังวลครับ เพราะถ้าเราใช้ Python เราสามารถทำให้งานน่าเบื่อแบบนั้นเป็นอัตโนมัติได้ในไม่กี่วินาที! ในบทความนี้ ผมจะอธิบายวิธีสร้าง "เครื่องมือย่อขนาดรูปภาพทั้งหมด" ที่แม้แต่ผู้เริ่มต้นด้านโปรแกรมมิ่งก็สามารถนำไปใช้ได้ทันทีแค่ก๊อปปี้แปะ พร้อมทั้งเล่าถึงจุดที่ผมเคยติดปัญหาด้วยความละเอียดครับ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ว่า "มันทำงานได้!" จริงๆ ครับ
เป้าหมายของเราในครั้งนี้: มาทำให้การย่อขนาดรูปภาพที่น่าเบื่อเป็นอัตโนมัติกันเถอะ!
เมื่ออ่านบทความนี้จบ คุณจะสามารถสร้างสคริปต์ Python แบบนี้ได้ครับ
- นำรูปภาพทั้งหมดในโฟลเดอร์ที่กำหนด
- คงอัตราส่วนภาพ (aspect ratio) เดิมไว้
- ย่อขนาดตามความกว้างที่กำหนดพร้อมกันทั้งหมด
- และบันทึกไปยังอีกโฟลเดอร์หนึ่งโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น คุณจะสามารถแปลงรูปภาพหลายสิบรูปที่เก็บไว้ในโฟลเดอร์ให้กลายเป็นรูปภาพสำหรับบล็อกที่มีความกว้าง 800px ได้ในพริบตา ไม่จำเป็นต้องเปิดโปรแกรมแต่งรูปซ้ำไปซ้ำมาอีกต่อไป!
ลาก่อนการทำงานด้วยมือ! นี่คือภาพของการประมวลผลทั้งหมดด้วย Python
ขั้นตอนการเตรียมตัว: การติดตั้ง Pillow และการเตรียมโฟลเดอร์ทำงาน
ก่อนที่เราจะเริ่มร่ายเวทมนตร์ เรามาเริ่มจากการเตรียมตัวกันก่อน ไม่ยากเลยครับ สบายใจได้
1. Pillow คืออะไร? แล้วจะติดตั้งได้อย่างไร?
พระเอกที่เราจะใช้ในครั้งนี้คือไลบรารีที่ชื่อว่า "Pillow" ครับ ไลบรารีก็เปรียบเสมือน "กล่องเครื่องมือ" ที่รวบรวมฟังก์ชันที่มีประโยชน์ไว้มากมาย Pillow ก็คือ "กล่องเครื่องมือของปรมาจารย์ด้านการประมวลผลภาพ" สำหรับ Python นั่นเอง
Pillow เป็นไลบรารีที่มีความน่าเชื่อถือสูงมากและถูกใช้งานโดยนักพัฒนาทั่วโลก มีเอกสารประกอบมากมายบนเว็บไซต์ทางการ ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ (อ้างอิง: เอกสารทางการของ Pillow)
การติดตั้งก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่รันคำสั่ง 1 บรรทัดนี้ใน Command Prompt (Windows) หรือ Terminal (Mac) ครับ
pip install Pillow
2. เตรียมโฟลเดอร์สำหรับทำงานกันเถอะ
ต่อมา เราจะมาเตรียมโฟลเดอร์สำหรับทำงานกันครับ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก! เพื่อไม่ให้ทุกอย่างรกไปหมด เรามาแยกโฟลเดอร์สำหรับเก็บรูปภาพก่อนย่อขนาดกับโฟลเดอร์สำหรับบันทึกรูปภาพหลังย่อขนาดกันครับ
ก่อนอื่น ให้สร้างโฟลเดอร์ชื่อ "resize_tool" ในตำแหน่งที่คุณต้องการ เช่น บนเดสก์ท็อป จากนั้นสร้าง 3 อย่างนี้ไว้ข้างในครับ
- โฟลเดอร์ input_images: เป็นที่สำหรับเก็บรูปภาพต้นฉบับที่คุณต้องการย่อขนาด
- โฟลเดอร์ output_images: เป็นที่สำหรับบันทึกรูปภาพที่ย่อขนาดแล้ว
- resize.py: คือไฟล์โค้ด Python ที่เรากำลังจะเขียนกันครับ
โครงสร้างจะออกมาเป็นแบบนี้ครับ
resize_tool/
├── input_images/
│ ├── photo1.jpg
│ ├── photo2.png
│ └── ... (ใส่รูปภาพที่ต้องการย่อขนาดไว้ที่นี่)
│
├── output_images/
│ └── (ตอนแรกจะว่างเปล่า)
│
└── resize.py (เราจะสร้างไฟล์นี้ขึ้นมา)
การเตรียมตัวก็มีเท่านี้ครับ! ลองนำรูปภาพที่คุณมีอยู่สองสามรูปไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์ `input_images` ได้เลยครับ
ภาคปฏิบัติ: มาเริ่มเขียนโค้ด Python กันเลย!
ในที่สุดก็ถึงเวลาเขียนโค้ดแล้วครับ! เปิดไฟล์ `resize.py` ด้วยโปรแกรมแก้ไขข้อความแล้วมาเขียนไปพร้อมๆ กันเลย ผมจะแยกอธิบายทีละส่วน ไม่ต้องรีบร้อนตามมานะครับ
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเครื่องมือที่จำเป็น (โมดูล)
ก่อนอื่น เราต้องประกาศที่ตอนต้นของโปรแกรมว่า "ครั้งนี้เราจะใช้เครื่องมือเหล่านี้" กันก่อนครับ มาเรียกปรมาจารย์ด้านการประมวลผลภาพ "Pillow" และปรมาจารย์ด้านการจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ "os" กัน
import os
from PIL import Image
from PIL import Image มีความหมายว่า "จากไลบรารี Pillow (PIL) เราจะใช้ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับการจัดการรูปภาพ (Image) เป็นพิเศษ" คิดซะว่าเป็นคาถาประจำที่เราต้องท่องก็ได้ครับ
ขั้นตอนที่ 2: บอกตำแหน่งของโฟลเดอร์
ต่อมา เราต้องบอกให้โปรแกรมรู้ว่า "โฟลเดอร์อินพุต" และ "โฟลเดอร์เอาต์พุต" ที่เราเตรียมไว้เมื่อสักครู่อยู่ที่ไหน
# ระบุพาธของโฟลเดอร์อินพุตและเอาต์พุต
input_dir = 'input_images'
output_dir = 'output_images'
แค่นี้โปรแกรมก็จะเข้าใจแล้วว่าต้องอ่านรูปภาพจาก `input_images` และนำผลลัพธ์ไปเขียนที่ `output_images` ครับ
ขั้นตอนที่ 3: ลองย่อขนาดรูปภาพ 1 รูป (กระบวนการพื้นฐาน)
ถ้าจะทำทั้งหมดทีเดียวอาจจะสับสนได้ เรามาดูลำดับขั้นตอนการย่อขนาด "รูปภาพเพียง 1 รูป" กันก่อนครับ นี่คือพื้นฐานของทั้งหมด
- เปิดรูปภาพ (`Image.open`)
- ย่อขนาดเป็นขนาดใหม่ (`.resize`)
- บันทึกด้วยชื่อใหม่ (`.save`)
เมื่อเขียนเป็นโค้ด จะได้ภาพประมาณนี้ครับ (※ โค้ดนี้ยังไม่ต้องรันนะครับ)
# (นี่เป็นเพียงภาพตัวอย่างแนวคิด)
# 1. เปิดรูปภาพ
img = Image.open('input_images/photo1.jpg')
# 2. ย่อขนาดให้มีความกว้าง 800px (ความสูงกำหนดคร่าวๆ)
resized_img = img.resize((800, 600))
# 3. บันทึกด้วยชื่ออื่น
resized_img.save('output_images/resized_photo1.jpg')
ขั้นตอนที่ 4: ประมวลผลรูปภาพทั้งหมดในโฟลเดอร์อินพุตตามลำดับ
เมื่อเข้าใจพื้นฐานแล้ว ก็มาถึงหัวใจหลักกันแล้วครับ เราจะให้ Python ดึงไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ `input_images` ออกมาทีละไฟล์ แล้วทำการย่อขนาดไปตามลำดับ การทำงานซ้ำๆ แบบนี้เป็นงานถนัดของโปรแกรมมิ่งเลยครับ
เราสามารถใช้ `os.listdir(input_dir)` เพื่อดึงรายชื่อไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ที่กำหนดได้ จากนั้นเราจะใช้มันเพื่อวนซ้ำกระบวนการจนกว่าจะไม่มีไฟล์เหลือ
# วนซ้ำเพื่อประมวลผลไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์อินพุต
for filename in os.listdir(input_dir):
# เราจะเขียนโค้ดย่อขนาดสำหรับแต่ละไฟล์ไว้ตรงนี้
print(f"กำลังประมวลผล {filename}...")
for ... in ...: คือไวยากรณ์สำหรับสร้างการทำงานแบบวนซ้ำ มันจะดึงชื่อไฟล์จากลิสต์ที่ได้จาก `os.listdir(input_dir)` มาทีละชื่อแล้วใส่ไว้ในตัวแปร `filename` จากนั้นก็จะรันโค้ดที่อยู่ในบล็อกนั้นครับ
[สำคัญที่สุด] หลุมพรางที่ผมเคยเจอและวิธีแก้ไข
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะราบรื่นดี แต่จริงๆ แล้วตรงนี้มีหลุมพรางที่ผู้เริ่มต้นมักจะตกกันอยู่ครับ ซึ่งผมก็เคยตกมาแล้วอย่างสวยงาม!
ปัญหา: โปรแกรมพยายามประมวลผลไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพจนเกิดข้อผิดพลาด!
ถ้าคุณใช้ Mac มันจะสร้างไฟล์ที่มองไม่เห็นอย่าง `.DS_Store` ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ หรือบางทีคุณอาจจะใส่ไฟล์ข้อความสำหรับจดบันทึกไว้เอง โค้ดก่อนหน้านี้พยายามที่จะประมวลผลไฟล์ "ทั้งหมด" ในโฟลเดอร์ ดังนั้นมันจะเกิดข้อผิดพลาดเมื่อพยายามเปิดไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพครับ
วิธีแก้ไข: กำหนดให้ประมวลผลเฉพาะไฟล์รูปภาพ (.jpg, .png เป็นต้น) เท่านั้น
เราจะเพิ่มเงื่อนไขเพื่อตรวจสอบส่วนท้ายของชื่อไฟล์ (นามสกุล) และจะทำการย่อขนาดก็ต่อเมื่อเป็นไฟล์รูปภาพเท่านั้น วิธีนี้จะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดได้อย่างแน่นอน
for filename in os.listdir(input_dir):
# ตรวจสอบว่านามสกุลไฟล์เป็น .jpg, .jpeg, .png หรือ .gif หรือไม่
if filename.lower().endswith(('.jpg', '.jpeg', '.png', '.gif')):
# ถ้าเขียนโค้ดย่อขนาดไว้ตรงนี้ ก็จะประมวลผลเฉพาะไฟล์รูปภาพเท่านั้น!
print(f"กำลังประมวลผลไฟล์รูปภาพ {filename}")
else:
# ถ้าไม่ใช่ไฟล์รูปภาพ ให้ข้ามไป
print(f"ข้ามไฟล์ที่ไม่ใช่รูปภาพ {filename}")
continue # ไปยังการวนซ้ำรอบถัดไป
จุดสำคัญคือการใช้ .lower() เพื่อแปลงชื่อไฟล์เป็นตัวพิมพ์เล็กก่อน แล้วค่อยใช้ .endswith() เพื่อตรวจสอบส่วนท้ายของสตริง วิธีนี้จะทำให้รองรับนามสกุลที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ได้ด้วย เช่น `PHOTO.JPG` ครับ
ภาคประยุกต์ ①: ย่อขนาดอย่างสวยงามโดยคงอัตราส่วนภาพไว้
เอาล่ะครับ ตอนนี้เราเข้าใจพื้นฐานการย่อขนาดแล้ว แต่ถ้าเราแค่ระบุขนาดไปดื้อๆ รูปภาพอาจจะถูกยืดในแนวตั้งหรือแนวนอนจนดูไม่สวยงามได้ เพื่อรักษาคุณภาพของเว็บไซต์ การคงอัตราส่วนภาพ (aspect ratio) ไว้จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง!
การคำนวณนั้นง่ายมาก แค่คำนวณอัตราส่วนภาพของรูปต้นฉบับ แล้วคำนวณความสูงใหม่ให้สอดคล้องกับความกว้างใหม่โดยอัตโนมัติก็พอครับ
- กำหนดความกว้างเป้าหมาย (เช่น: 800px)
- ดึงขนาด (ความกว้างและความสูง) ของรูปต้นฉบับ
- คำนวณอัตราส่วนภาพด้วย `ความสูงเดิม / ความกว้างเดิม`
- คำนวณหาความสูงใหม่ด้วย `ความสูงใหม่ = ความกว้างเป้าหมาย * อัตราส่วนภาพ`
เมื่อนำมาเขียนเป็นโค้ดจะได้ดังนี้ครับ
# (โค้ดนี้ต้องใส่ไว้ในลูป)
# เปิดรูปต้นฉบับ
img = Image.open(os.path.join(input_dir, filename))
width, height = img.size # ดึงความกว้างและความสูงของรูปต้นฉบับ
# ระบุความกว้างใหม่
new_width = 800
# คำนวณความสูงใหม่โดยคงอัตราส่วนภาพไว้
new_height = int(new_width * height / width)
# เริ่มย่อขนาด!
resized_img = img.resize((new_width, new_height))
การใช้ os.path.join() จะช่วยเชื่อมชื่อโฟลเดอร์กับชื่อไฟล์เข้าด้วยกันอย่างถูกต้องตามระบบปฏิบัติการ ซึ่งปลอดภัยกว่า และเนื่องจากผลลัพธ์จากการคำนวณอาจเป็นทศนิยม เราจึงใช้ `int()` เพื่อแปลงให้เป็นจำนวนเต็มครับ
ภาคประยุกต์ ②: สำหรับนักสร้างเว็บ! มาใส่ "ลายน้ำ" ให้รูปภาพกัน
บางครั้งเราก็อยากใส่ "ลายน้ำ" (watermark) เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นนำผลงานหรือรูปภาพในบล็อกของเราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตใช่ไหมครับ ด้วย Pillow เรื่องแบบนี้ก็ทำได้ง่ายๆ เรามาลองเพิ่มข้อความแสดงลิขสิทธิ์ลงบนรูปภาพที่ย่อขนาดแล้วกันครับ
สำหรับขั้นตอนนี้ เราจะใช้ฟังก์ชันการวาดภาพของ Pillow ที่ชื่อว่า `ImageDraw` ครับ
# (นี่คือขั้นตอนหลังจากการย่อขนาด)
from PIL import ImageDraw, ImageFont
# ... หลังจากขั้นตอนย่อขนาด ...
# สร้างอ็อบเจกต์สำหรับวาดภาพ
draw = ImageDraw.Draw(resized_img)
# ระบุข้อความและฟอนต์
text = "© Your Name"
# สามารถระบุฟอนต์ที่มีในเครื่องได้ ถ้าไม่มีจะใช้ฟอนต์มาตรฐาน
try:
font = ImageFont.truetype("arial.ttf", 24)
except IOError:
font = ImageFont.load_default()
# คำนวณตำแหน่งที่จะวาดข้อความ (มุมขวาล่าง)
text_width, text_height = draw.textbbox((0, 0), text, font=font)[2:4]
position = (resized_img.width - text_width - 10, resized_img.height - text_height - 10)
# วาดข้อความ
draw.text(position, text, font=font, fill=(255, 255, 255, 128)) # สีขาวโปร่งแสง
# หลังจากนี้ค่อยบันทึกรูปภาพ
อาจจะดูซับซ้อนไปนิด แต่สิ่งที่ทำก็คือ "เข้าสู่โหมดวาดภาพ" "กำหนดข้อความและตำแหน่ง" แล้วก็ "วาดลงไป" ครับ ตัวเลข `128` สุดท้ายใน `fill=(255, 255, 255, 128)` คือค่าความโปร่งใส ซึ่งปรับได้ตั้งแต่ 0 (โปร่งใสสมบูรณ์) ถึง 255 (ทึบแสงสมบูรณ์) ครับ
[เคล็ดลับการใช้ AI] จะสั่งให้ AI เขียนโค้ดนี้ได้อย่างไร?
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเรียนเขียนโปรแกรมของผมก็คือ AI อย่าง ChatGPT หรือ Gemini ครับ ถ้าเราสั่งงาน (prompt) พวกเขาเก่งๆ โค้ดแบบนี้ก็สร้างขึ้นมาได้ในพริบตาเดียว
ตัวอย่างเช่น ลองขอแบบนี้ดูครับ
ช่วยสร้างสคริปต์ Python สำหรับย่อขนาดรูปภาพทั้งหมดโดยใช้ไลบรารี Pillow # ความต้องการ - อ่านรูปภาพจากโฟลเดอร์ชื่อ `input_images` - อ่านเฉพาะไฟล์ที่มีนามสกุล `.jpg`, `.jpeg`, `.png` เท่านั้น - ย่อขนาดรูปภาพทั้งหมดให้มีความกว้าง 800px โดยคงอัตราส่วนภาพเดิมไว้ - บันทึกรูปภาพที่ย่อขนาดแล้วไปยังโฟลเดอร์ชื่อ `output_images` โดยใช้ชื่อไฟล์เดิม - ช่วยแสดงข้อความในคอนโซลเพื่อให้รู้ว่ากำลังประมวลผลไฟล์ไหนอยู่
ประเด็นสำคัญคือ การบอกสิ่งที่เราอยากทำอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นข้อๆ ให้ชัดเจน ครับ AI เป็นผู้ช่วยที่เก่งมาก ยิ่งคำสั่งแม่นยำเท่าไหร่ โค้ดที่ได้ก็จะยิ่งมีความแม่นยำสูงขึ้นเท่านั้นครับ
สรุปรวม: โค้ดฉบับสมบูรณ์ของเครื่องมือย่อขนาดภาพที่ก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย!
รอมานานแล้วใช่ไหมครับ! นี่คือสคริปต์ Python ฉบับสมบูรณ์ที่รวบรวมทุกองค์ประกอบที่เราได้อธิบายมาทั้งหมด ลองก๊อปปี้โค้ดนี้ไปวางในไฟล์ `resize.py` แล้วใส่รูปภาพสักสองสามรูปในโฟลเดอร์ `input_images` จากนั้นลองรันดูครับ
วิธีการรันก็แค่เข้าไปที่โฟลเดอร์ `resize_tool` ใน Command Prompt หรือ Terminal แล้วพิมพ์ `python resize.py` ครับ
import os
from PIL import Image
def resize_images_in_folder(input_dir, output_dir, new_width=800):
"""
ฟังก์ชันสำหรับย่อขนาดรูปภาพทั้งหมดในโฟลเดอร์ที่ระบุ
พร้อมทั้งรักษาสัดส่วนภาพ
:param input_dir: พาธของโฟลเดอร์อินพุต
:param output_dir: พาธของโฟลเดอร์เอาต์พุต
:param new_width: ความกว้างของรูปภาพหลังย่อขนาด (พิกเซล)
"""
# ถ้าไม่มีโฟลเดอร์เอาต์พุต ให้สร้างขึ้นมา
if not os.path.exists(output_dir):
os.makedirs(output_dir)
print(f"สร้างโฟลเดอร์ '{output_dir}' เรียบร้อยแล้ว")
# ลิสต์ของนามสกุลไฟล์รูปภาพที่รองรับ
supported_formats = ('.jpg', '.jpeg', '.png', '.gif', '.bmp', '.tiff')
# ดึงรายชื่อไฟล์ทั้งหมดจากโฟลเดอร์อินพุต
filenames = os.listdir(input_dir)
if not filenames:
print(f"ในโฟลเดอร์อินพุต '{input_dir}' ไม่มีไฟล์")
return
print(f"กำลังเริ่มประมวลผล... จำนวนไฟล์ทั้งหมด: {len(filenames)}")
# ประมวลผลทีละไฟล์
for filename in filenames:
# ตรวจสอบว่านามสกุลไฟล์เป็นรูปแบบที่รองรับหรือไม่
if not filename.lower().endswith(supported_formats):
print(f"--- ข้ามไฟล์: {filename} (ไฟล์ไม่รองรับ)")
continue
try:
# สร้างพาธเต็มของอินพุตและเอาต์พุต
input_path = os.path.join(input_dir, filename)
output_path = os.path.join(output_dir, filename)
# เปิดรูปภาพ
with Image.open(input_path) as img:
# ดึงความกว้างและความสูงของรูปต้นฉบับ
width, height = img.size
# คำนวณความสูงใหม่โดยคงอัตราส่วนภาพไว้
aspect_ratio = height / width
new_height = int(new_width * aspect_ratio)
# ย่อขนาดรูปภาพ
resized_img = img.resize((new_width, new_height))
# บันทึกรูปภาพ (กรณี PNG ให้คงความโปร่งใสไว้)
if filename.lower().endswith('.png'):
resized_img.save(output_path, 'PNG')
else:
# กรณีบันทึกเป็น JPEG สามารถกำหนดคุณภาพได้ (ค่าเริ่มต้นคือ 75)
# แปลงเป็น RGB ก่อนเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
resized_img.convert('RGB').save(output_path, 'JPEG', quality=90)
print(f"✓ สำเร็จ: ย่อขนาดไฟล์ {filename} เป็น {new_width}x{new_height} แล้ว")
except Exception as e:
print(f"× ข้อผิดพลาด: เกิดปัญหาระหว่างประมวลผลไฟล์ {filename} - {e}")
print("การประมวลผลทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์")
# --- ส่วนนี้คือจุดเริ่มต้นการทำงานของโปรแกรม ---
if __name__ == "__main__":
# ระบุพาธของโฟลเดอร์อินพุตและเอาต์พุต
INPUT_FOLDER = 'input_images'
OUTPUT_FOLDER = 'output_images'
# ระบุความกว้างเป้าหมายหลังการย่อขนาด
TARGET_WIDTH = 800
# เรียกใช้ฟังก์ชัน
resize_images_in_folder(INPUT_FOLDER, OUTPUT_FOLDER, TARGET_WIDTH)
ลองเปิดโฟลเดอร์ `output_images` ดูสิครับ ถ้ามีรูปภาพที่ย่อขนาดแล้วเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ก็ถือว่าสำเร็จครั้งใหญ่เลยครับ!
ส่งท้าย: โปรแกรมมิ่งคือเวทมนตร์ที่ช่วยแก้ปัญหา "ความน่าเบื่อ"
ในครั้งนี้ เราได้ใช้ Python และ Pillow เพื่อสร้างเครื่องมือที่ช่วยทำงานย่อขนาดรูปภาพที่แสนน่าเบื่อให้เป็นอัตโนมัติ การเขียนโปรแกรมอาจจะฟังดูยาก แต่ถ้าเรามีเป้าหมายอย่าง "การแก้ปัญหาเรื่องน่าเบื่อรอบตัว" แบบนี้ มันจะกลายเป็นเรื่องสนุกและเป็นทักษะที่ใช้งานได้จริงขึ้นมาทันที
ผมจะดีใจมากถ้าบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ความสำเร็จ "ทำได้แล้ว!" ของคุณ และเป็นก้าวแรกสู่โลกแห่งการเขียนโปรแกรมครับ ลองนำไปปรับตั้งค่าต่างๆ แล้วดัดแปลงให้เป็นเครื่องมือในแบบฉบับของคุณเองได้เลยนะครับ!
ไปยังขั้นตอนต่อไป
หลังจากที่คุณได้สัมผัสกับความสะดวกสบายของ Python ในบทความนี้แล้ว ผมเชื่อว่าคุณคงอยากจะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปแน่นอน ครั้งหน้าเรามาลองทำอะไรที่น่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเชื่อมต่อกับบริการภายนอกกันดีไหมครับ?
ในบทความถัดไป ผมจะอธิบายวิธีสร้างแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศบน Command Line โดยใช้ Web API ครับ เรามาใช้ความรู้ที่ได้เรียนรู้วันนี้เพื่อพัฒนาทักษะของเราให้สูงขึ้นไปอีกขั้นกันเถอะ!